You are currently viewing ทำยังไงในวันที่ Facebook เเบนเพจ โพสเเชทรีวิวลูกค้า & โพสเเจ้งเลขพัสดุ?

ทำยังไงในวันที่ Facebook เเบนเพจ โพสเเชทรีวิวลูกค้า & โพสเเจ้งเลขพัสดุ?

อยู่ดีๆตอนนี้ Facebook ก็ไล่เเบนปิดเพจเป็นว่าเล่น ทำให้พ่อค้าเเม้ค้าออนไลน์เจอปัญหาตามๆกัน โดยไม่ทันตั้งตัว เเล้วเราจะรับมือเเละป้องกันเพจโดนปิดได้ยังไง? ก่อนอื่นเราต้องรู้ถึงที่มาที่ไปก่อน

สาเหตุที่ Facebook ทำอย่างนี้ เพราะเฟซบุ๊คเข้มงวดเรื่องข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น เราอาจจะไม่คิดว่ามีอะไรร้ายเเรง เเค่โพสรีวิวจากลูกค้า โพสเเจ้งเลขพัสดุมันจะร้ายเเรงยังไง?

สำหรับบ้านเราอาจจะดูไม่ร้ายเเรง เเต่ที่ประเทศตะวันตกเรื่องข้อมูลส่วนตัวหรือความเป็นส่วนตัว เป็นเรื่องใหญ่มาก

ถ้าจำกันได้เมื่อปี 2016 ที่ Cambridge Analytica ใช้ข้อมูลของผู้ใช้งานบน Facebook ใช้ในการหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สุดท้ายมีส่วนที่ทำให้ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง

ทำให้ Facebook เจอเเรงต้านจากสังคมอย่างหนักหน่วง ถึงขนาดมีเเคมเปญรณรงค์ ให้คนเลิกใช้ Facebook เเละบริษัทยักษ์ใหญ่หลายๆรายประกาศไม่ใช่ Facebook อีกต่อไปด้วย

นี้ก็เป็นจุดที่ทำให้ Facebook เข้มงวดกับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้มากขึ้น เพราะกลัวการขโมยข้อมูลนั้นเอง

ที่มาของรูป BBC

ทำไม Facebook มองว่าการเปิดเผยข้อมูลลูกค้าอันตราย?

หมายเหตุ:ข้อมูลนี้เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

จากที่ผมเกริ่นมาคุณคงจะพอเข้าใจเเล้วว่าทำไม Facebook เข้มงวดกับการโพสข้อมูลลูกค้าของเพจ

การที่เราโพสรูปจากเเชท หรือหมายเลขพัสดุของลูกค้า ทำให้คนอื่นเห็นข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าคนนั้นด้วยกัน รวมถึงมิจฉาชีพเเละเเฮคเกอร์ ถึงเเม้ว่าจะมีประเด็นว่าข้อมูลนั้นเราขออนุญาติลูกค้าเเล้วก็ตาม เเต่มันก็ยังเสี่ยงอยู่ Facebook เลยน่าจะทำเป็นกฏหมู่เพื่อป้องกันตรงนั้น

จริงอยู่ที่เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นมานานเเล้ว เเต่ประเด็นคือเมื่อ Facebook ถูกเพ่งเล็งอย่างหนัก ก็ต้องมีมาตรการใหม่ๆออกมาป้องกัน ทั้งในด้านกฏหมายเเละด้านความไว้ใจจากผู้ใช้

เมื่อคุณโพสชื่อของลูกค้าจากเเชทที่คุณเเคปเจอร์มาโพส คนที่จ้องล้วงข้อมูลก็จะรู้ว่าลูกค้าคนนั้นสนใจเกี่ยวกับอะไร ซึ่งทำให้สามารถรนำไปใช้หลอกลวงลูกค้าคนนั้นๆได้

ส่วนหมายเลขพัสดุเเฮกเกอร์ก็สามารถไปเเฮกข้อมูลต่อ เพื่อเอาข้อมูลที่อยู่ส่วนตัวเอาไปใช้อีกทีในการต้มตุ๋นเกี่ยวกับบริการ-สินค้าที่ลูกค้าเพิ่งซื้อไปได้

เเล้วจะทำยังไงไม่ให้ถูกปิดเพจ?

ณ ตอนนี้เราที่เราทำได้คือต้องไม่โพสข้อมูลที่เปิดเผยเกี่ยวกับตัวตนของลูกค้าเลย เช่น รูปเเคปเจอร์จากเเชทกับลูกค้า หรือเลขพัสดุ รวมถือการ tag ลูกค้าในโพสด้วย

หลักการคือทำยังไงก็ได้ไม่ให้ใครรู้ว่าใครเป็นลูกค้าของเรา โพสเก่าๆก็ต้องไล่ลบให้หมดเพื่อความชัวร์

กรณีโพสรูปจากเเชท ไม่เเน่ใจว่าถ้าเบลอชื่อเเละรูปโปรโฟล์ลูกค้าจะช่วยไหม เเต่ทางที่ดีอย่าทำดีกว่าครับ เพราะเรายังไม่รู้ข้อมูลที่เเน่ชัด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมผมจะเอามาอัพเดทในบทความนี้ครับ

ถ้าไม่ทำเเบบนี้ก็ขายไม่ได้สิ?

จริงๆเเล้วตรงนี้การสร้างเเบรนด์สามารถช่วยได้ครับ ดูอย่างเพจของบริษัทหรือเเบรนด์สินค้าหรู ที่เเม้จะไม่ใช่เเบรนด์ดัง เเต่ส่วนใหญ่ก็ไม่โพสรูปเเชทลูกค้าหรือรูปหมายเลขพัสดุเเบบนี้อยู่เเล้ว เเต่ก็ยังขายได้

ถ้าคุณต้องการรีวิวจากลูกค้าเพื่อความน่าเชื่อถือ ผมเเนะนำให้ลองบอกลูกค้าที่ซื้อของไป ให้ทิ้งรีวิวไว้ที่ tab review ของเพจเรา น่าจะช่วยได้เเละไม่เสี่ยงโดนเเบนเพราะเป็นฟังค์ชั่นของ Facebook เอง

อีกวิธีคือโพสรูปรีวิวจากเเชทพวกนั้นไว้บนเว็บไซต์เรา ใส่ลิงค์เว็บไซต์เราไว้ตรงข้อมูลเพจเเละใต้โพส ให้ ลูกค้าเข้าไปดูข้อมูลที่เว็บเเล้วเค้าจะเห็นรีวิวเอง เเละเว็บไซต์ก็ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยครับ

ใครที่ไม่รู้วิธีสร้างเว็บไซต์ตอนนี้มีเว็บไซต์ที่ชื่อ Lnwshop ที่ทำได้ง่ายๆคล้ายการทำเพจเลย เเค่อัพโหลดรูป ใส่ข้อมูล ก็มีเว็บไซต์เองได้เเล้ว ใครอยากดูว่าทำยังไงกดดูที่ช่อง Youtube ของผมที่ลิงค์ด้านล่านครับ

วิธีลบโพสต์เก่าๆหลายๆอันพร้อมกัน

สำหรับโพสต์เก่าๆที่มีข้อมูลลูกค้าทั้งรูปเเคปเจอร์จากเเชท รวมถึงรูปหมายเลขพัสดุก็ต้องไล่ลบให้หมด ถ้าต้องลบหลายโพสทีเดียวให้ไปที่เพจ More -> Pulishing Tools

จากนั้นเราจะเห็นโพสทั้งหมดของเรา ให้เราค้นหาคำที่เราใส่ไปในโพสต์เเจ้งเลขพัสดุประจำ

จากนั้นโพสต์ที่มีคำนั้นจะโชว์ขึ้นมา เราติ๊กที่หน้าโพสต์เเต่ละอันได้ที่ต้องการลบได้เลย พอเลือกเสร็จเเล้วให้กด Action ด้านบน เเละกด delete เพื่อลบโพสต์ที่เราเลือกทั้งหมด นี้ก็เป็นวิธีลบโพสต์หลายโพสต์พร้อมกัน โดยไม่ต้องเลื่อนหา เเละลบทีละอันครับ

ส่งของวันเป็นร้อย ต้องเเจ้งลูกค้าทีละคนหรอ?

สำหรับการเเจ้งพัสดุถ้าคุณส่งของเยอะๆต่อวัน ผมเเนะนำให้ใช้ระบบเว็บไซต์มาช่วย บางเว็บไซต์มีบริการเสริมที่ให้เราเเจ้งข้อมูลลูกค้าผ่าน SMS ได้อัตโนมัติ

ใช้ Lnwshop ได้เหมือนกัน (ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับ Lnwshop เเต่ที่เเนะนำเพราะผมใช้วิธีนี้เองเเละมันตรงกับในเคสนี้) ที่ให้เราสร้างออเดอร์ของลูกค้าเเละส่ง SMS เเจ้งหมายพัสดุเเบบอัตโนมัติได้เลย เราไม่ต้องไปเเจ้งลูกค้าทีละคน หรือไม่ต้องโพสที่หน้าเพจเรา

หลักการก็คือ หลังจากที่คุณรับออเดอร์จากลูกค้าในเเชทมาเเล้ว ก็เเจ้งลูกค้าว่าถ้าส่งสินค้าเเล้วเราจะส่งหมายเลขพัสดุไปทาง SMS ทำให้เค้ารู้ว่าเราจะไม่เเจ้งหมายเลขพัสดุทางเเชท

วิธีทำก็คือ ให้เราเข้าไปทำออเดอร์ใน Lnwshop ก็เหมือนที่เราพิมพ์ชื่อที่อยู่ใบป่ะหน้าพัสดุ (ใครไม่มีรู้วิธีใช้งาน Lnwshop ดูคลิปของผมในช่อง Youtube ได้ครับ) เเละที่ดีกว่านั้นคือ Lnwshop มีบริการเสริมที่ปริ้นซ์ใบป่ะหน้าได้เลย เราไม่ต้องก๊อปวางที่ Excel เเล้วต้องเเก้ที่อยู่ทุกอันก่อนปรินต์ เสร็จเเล้วพอเราได้หมายเลขพัสดุเราก็เเค่ใส่หมายเลขพัสดุไปที่ออเดอร์ของลูกค้าที่สั่ง ลูกค้าก็จะได้รับ SMS อัตโนมัติ

ความเห็นของผม

นี้ก็เป็นโอกาสที่ดี ที่ให้เรากลับมาดูวิธีขายของออนไลน์ของเรา ว่าเราทำยังไง เราขายของยังไง ด้วยวิธีไหน เเละได้ใช้เทคโนโลยีมาช่วยรึยัง?

ในเมื่อ Facebook เป็นบริษัทฝรั่ง ถ้าเราจะใช้ก็ต้องเคารพกฏเเละทำเเบบฝรั่ง ถึงเเม้จะรู้สึกขัดใจก็ตาม ใครนึกภาพไม่ออก ลองดูเพจของร้านของเมืองนอกได้ครับ

ที่ผ่านมาคนขายบ้านเราบน Facebook ส่วนใหญ่ไม่คิดถึงจุดนี้ เน้นทำยังไงก็ได้ให้ขายได้ ไม่ใช่เรื่องข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าอย่างเดียว

มีร้านมากมายไลฟ์ขายเเบบไม่สร้างสรรค์ อย่างเล่นเกมส์เติมคำในช่องว่าง ตัวอย่าง ให้ทายตัวอักษรในคำลามก หรือโชว์อนาจาร ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ผมคิดว่าร้านพวกนี้เป็นรายต่อไปที่ Facebook จะจัดการ

เเต่ทุกวิกฤตมีโอกาส เเต่โอกาสนั้นจะมาหาคนที่คู่ควรเท่านั้น ในกรณีนี้คือคนที่ทำทุกอย่างถูกต้อง คนที่ขายเเบบสร้างสรรค์ จริงใจ เคารพกฏกติกาเเละศีลธรรม พอถึงเวลาตัวปลอมก็ต้องออกไป เเต่คนที่คู่ควรก็ยังอยู่เเละได้ประโยชน์จากตรงนี้มากขึ้นเเน่นอน

เเละผมหวังว่าคุณจะเป็นตัวจริงนะครับ….


ใครชอบบทความนี้ Share ให้เพื่อนๆเห็นด้วยนะครับ

Ball Thatthana

เเบ่งบันเรื่องราวการตลาดออนไลน์ ทำธุรกิจ พัฒนาตัวเอง เเง่คิดต่างๆ

Leave a Reply