You are currently viewing Dropshipping VS Affiliate Marketing ต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่า?
https://unsplash.com/photos/cjbYUTw3vxQ

Dropshipping VS Affiliate Marketing ต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่า?

ดรอปชิปปิ้ง (Dropshipping) กับ อัฟฟิลิเอท (Affiliate Marketing) เป็นคำที่คนกำลังหาวิธีหาเงินออนไลน์ต้องเคยได้ยินกันบ้างเเล้ว

เเต่เเบบไหนเหมาะกับเรามากกว่า เเล้วควรทำอะไรดีละ? ผมจะมาบอกในบทความนี้

Dropshipping

คือการขายของโดยไม่ต้องสต็อก วิธีนี้เราเเค่ไปหาร้านหรือระบบที่จะโอเคที่จะส่งของให้เราถ้าเราขายได้ พอมีคนสั่งเราก็ค่อยไปสั่งสินค้าต่อ ทำให้ไม่ต้องลงทุนก่อน แล้วสินค้าก็จะถูกส่งไปให้ลูกค้าเลย เรามีหน้าที่รับออเดอร์ คุยกับลูกค้าเท่านั้น

ข้อดีของการทำดรอปชิปคือ เราควบคุมทุกอย่างได้เหมือนร้านเราจริงๆ แค่เราไม่ต้องลงทุนเอง เราสร้างแบรนด์ของเราได้เลย เป็นการลงทุนระยะยาว เพราะมีโอกาสมีคนติดตามร้านเรา อีกอย่าง Dropshipping ก็เหมือนขายของทั่วไป ถ้าเราขายได้ก็ได้เงินทันที เหมาะมากถ้าใครอยากได้เงินเร็วๆ

ข้อเสียคือ เราต้องพูดคุยกับลูกค้าเอง ถ้าสินค้ามีปัญหาก็ต้องแก้ไขปัญหานั้นพูดคุยกับลูกค้าก่อนแล้วก็ประสานงานกับร้านเจ้าของสินค้า บางทีถ้าเราเลือกร้านไม่ดีไม่ได้ระวังก่อนก็อาจจะมีปัญหาเยอะ

Affliate Marketing

คือการโปรโมทสินค้าคนอื่นเหมือนเป็นการบอกต่อ เราจะได้ลิงค์เฉพาะจากเจ้าของสินค้า ถ้าเราแชร์ออกไปแล้วมีคนมากดสั่งเราก็จะได้ค่าคอมมิชชั่น

มีหลายวิธีทำ Affiliate Marketing ทำช่อง Youtube ทำ Website หรือทำเพจ เเต่เราจะไม่ทำเหมือนเราเป็นคนขายเอง เราจะทำตัวเป็นสื่อมากกว่า เช่น ทำรีวิวสินค้า พูด/เขียนถึงข้อดีข้อเสีย เปรียบเทียบสินค้า

ข้อดีของการทำ Affiliate คือแค่มีคนกดที่ลิงค์เราแล้วซื้อสินค้าเราก็จะได้ค่าคอมมิชชั่น บางครั้งเเค่สมัครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับใคร ไม่ต้องรับผิดชอบหากสินค้ามีปัญหาเพราะเราเเค่บอกต่อ

เเต่ข้อเสียหลักๆคือได้เงินช้า ส่วนใหญ่ต้องรอให้มีการยืนยันการสั่งซื้อก่อนว่าลูกค้าไม่คืนของเราถึงจะได้เงิน ยกตัวอย่างการโปรโมทสินค้า Lazada หรือ Shopee Affiliate เราต้องรอให้ของไปส่งลูกค้าเเละต้องไม่คืนของใน 7 วัน เเล้วก็ต้องรอประมาณ 1 เดือนถึงจะได้เงิน


นอกจากนั้นก็มีรอบการจ่ายเงิน หรือถ้าค่าคอมมิชชั่นไม่ถึงตามกำหนดเราจะยังไม่ได้เงิน ทำให้ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการได้เงินเร็วๆ

อีกข้อเสียที่มองข้ามไม่ได้คือ ส่วนใหญ่ระบบจะนับคลิ๊กสุดท้าย ถ้าเราทำให้ลูกค้ากดลิงค์ของเราก่อน แต่ต่อมาลูกค้าไปกดลิงค์คนอื่นแล้วซื้อ ถ้านับแต่คลิ๊กสุดท้ายเราก็จะไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น

บางคนทำ Affiliate Marketing เน้นให้คือมากดลิงค์อย่างเดียว เเต่ถ้าเราไม่ทำเเบรนด์ดีๆลูกค้าจะไม่จดจำเรา เพราะพอกดผ่านลิงค์เราไปก็จะไปที่หน้าการสั่งซื้อของเจ้าของสินค้า ครั้งต่อไปเค้าก็ไม่จำเป็นต้องมาสั่งผ่านลิงค์เรา ไม่เหมือนทำ Dropshipping ที่ลูกค้าจะคิดว่าเราคือเจ้าของสินค้าตัวจริงทำให้กลับมาซื้อซ้ำได้



นี่ก็คือข้อเเตกต่างระหว่าง Dropshipping กับ Affiliate Marketing ให้เราไปพิจารณาว่าเราเหมาะทำเเบบไหนมากกว่ากันครับ

มาคอมเม้มต์กันหน่อยว่าเพื่อนๆคิดว่าเเบบไหนเหมาะกับเรามากกว่ากันครับ?

Ball Thatthana

เเบ่งบันเรื่องราวการตลาดออนไลน์ ทำธุรกิจ พัฒนาตัวเอง เเง่คิดต่างๆ

Leave a Reply